แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและ
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕
1. ระเบียบฉบับนี้ให้ยกเลิกระเบียบฉบับใด
ก. พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๒
ข. พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๓
ค. พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๔
ง. พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๕
ตอบ ข. พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๓
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๐๓
2. ผู้รักษาการตามระเบียบฉบับนี้คือใคร
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของแต่ละกระทรวง
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
3. เจ้าพนักงานท้องถิ่น หมายความว่า
ก. นายกเทศมนตรี
ข. ประธานกรรมการสุขาภิบาล
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“เจ้าพนักงานท้องถิ่น” หมายความว่า
(๑) นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล
(๒) ประธานกรรมการสุขาภิบาล สำหรับในเขตสุขาภิบาล
(๓) ผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(๔) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
(๕) ปลัดเมืองพัทยา สำหรับในเขตเมืองพัทยา
(๖) หัวหน้าผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การปกครองท้องถิ่นที่กฎหมายกำหนดให้เป็นราชการส่วนท้องถิ่น สำหรับในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
4. ผู้ใดขับขี่รถซึ่งบรรทุกมูลสัตว์ กรวด หิน ดิน ทราย และวัตถุดังกล่าวได้ตกหล่น ปลิว ฟุ้งกระจาย ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. ปรับไม่เกินสามพันบาท
ข. ปรับไม่เกินสี่พันบาท
ค. ปรับไม่เกินห้าพันบาท
ง. ปรับไม่เกินหกพันบาท
ตอบ ก. ปรับไม่เกินสามพันบาท
มาตรา ๕๕ ผู้ใดขับขี่รถซึ่งบรรทุกมูลสัตว กรวด หิน ดิน เลน ทราย มูลฝอย หรือมีน้ำมัน และวัตถุดังกล่าวได้ตกหล่น ปลิว ฟุ้งกระจาย หรือรั่วไหลลงบนถนน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามพันบาท
5. ในเขตกรุงเทพมหานคร ผู้ใดมีอำนาจในการให้คำแนะนำผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อพิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องในการดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ประธานกรรมการสุขาภิบาล
ง. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา ๔๒ ในเขตกรุงเทพมหานครให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่จะให้คำแนะนำผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อพิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องในการดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
ในเขตเทศบาล สุขาภิบาล เมืองพัทยา และองค์การปกครองท้องถิ่นอื่นให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และของปลัดกระทรวงมหาดไทยสำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
6. การรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยตาม มาตรา ๓๗ คือข้อใด
ก. ห้ามมิให้ผู้ใดยืน นั่ง หรือ นานบนราวสะพานสาธารณะ หรือนอนในที่สาธารณะ
ข. ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะ
ค. ห้ามมิให้ผู้ใดปีนป่าย นั่ง หรือขึ้นไปบนรั้ว กำแพง ต้นไม้หรือสิ่งค้ำยันต้นไม้ในที่สาธารณะ
ง. ห้ามมิให้ผู้ใดเล่นว่าว ฟุตบอล ตะกร้อ หรือกีฬาใดๆ บนถนน หรือในสถานสาธารณะ
ตอบ ก. ห้ามมิให้ผู้ใดยืน นั่ง หรือ นานบนราวสะพานสาธารณะ หรือนอนในที่สาธารณะ
มาตรา ๓๗ ห้ามมิให้ผู้ใดยืน นั่ง หรือ นานบนราวสะพานสาธารณะ หรือนอนในที่สาธารณะ
7. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปิดแผ่นประกาศ หรือเขียนข้อความ ภาพ หรือเอกสาร เพื่อโฆษณาแก่ประชาชน จะต้องเสียค่าบริการเท่าใด
ก. หนึ่งร้อยบาท
ข. สองร้อยบาท
ค. สามร้อยบาท
ง. สี่ร้อยบาท
ตอบ ข. สองร้อยบาท
อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าบริการ
ลำดับที่ |
ประเภท |
จำนวนเงิน |
|
บาท |
สตางค์ |
||
๑. |
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปิดแผ่นประกาศ หรือเขียนข้อความ หรือภาพ ติดตั้ง เขียนป้าย หรือเอกสาร หรือทิ้งหรือโปรยแผ่นประกาศ เพื่อโฆษณาแก่ประชาชน |
๒๐๐ |
- |
8. การโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศหรือใบปลิวในที่สาธารณะ จะกระทำได้ต่อเมื่อรับอนุญาตจากบุคคลใด
ก. เจ้าของอาคาร
ข. รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข
ตอบ ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด
มาตรา ๑๐ การโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศหรือใบปลิวที่สาธารณะ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนดในหนังสืออนุญาตด้วย
การขออนุญาต การอนุญาต การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและการงดเว้นค่าธรรมเนียมในการขออนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง และในกฎกระทรวงดังกล่าวต้องกำหนดให้ชัดเจนว่ากรณีใดพึงอนุญาตได้หรืออนุญาตไม่ได้ และกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตไว้ด้วย
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การกระทำของราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่นหรือรัฐวิสาหกิจหรือของหน่วยงานที่มีอำนาจกระทำได้ หรือเป็นการโฆษณาในการเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการโฆษณาด้วยการปิดประกาศของเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือต้นไม้ เพียงพื่อให้ทราบชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ชื่ออาคาร เลขที่อาคาร หรือข้อความอื่นเกี่ยวแก่การเข้าไปและออกจากอาคารนั้น
9. ระเบียบฉบับนี้ให้ไว้เมื่อใด
ก. วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕
ข. วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕
ค. วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕
ง. วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕
ตอบ ง. วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕
ภูมิพลอดุยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นปีที่ ๔๗ ในรัชกาลปัจจุบัน
10. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยสัตว์ นำสัตว์เข้าไปในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศห้าม
ข. ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยสัตว์ นำสัตว์เข้าไปในบริเวณที่ส่วนบุคคลก่อนได้รับอนุญาต
ค. สามารถล้างรถยนต์บนสถานสาธารณะได้แต่ห้ามทำสกปรกเลอะเทอะ
ง. สามารถใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของถนนเป็นสถานที่ซ่อมรถยนต์ได้
ตอบ ก. ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยสัตว์ นำสัตว์เข้าไปในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศห้าม
มาตรา ๑๔ ห้ามมิให้ผู้ใด
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น)
ถาม – ตอบ มลพิษทางน้ำ
***************
1. “มลพิษ” หมายความว่าอย่างไร
ตอบ “มลพิษ” หมายความว่า ของเสีย วัตถุอันตรายและมลสารอื่นๆ รวมทั้งกากตะกอนหรือสิ่งตกค้างจากสิ่งเหล่านั้น ที่ถูกปล่อยทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษ หรือที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพ สิ่งแวดล้อมหรือภาวะที่เป็นพิษภัยอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนได้ และให้หมายความรวมถึง รังสี ความร้อน เสียง แสง กลิ่น ความสั่นสะเทือนหรือเหตุรำคาญอื่นๆ ที่เกิดหรือถูกปล่อยจากแหล่งกำเนิดมลพิษด้วย
2. มลพิษทางน้ำ หมายถึงอะไร
ตอบ มลพิษทางน้ำ หมายถึง สภาพน้ำที่เสื่อมคุณภาพ น้ำจะมีคุณสมบัติเปลี่ยนไปจากสภาพธรรมชาติ เนื่องจากมีสารมลพิษเข้าไปปะปนอยู่มาก น้ำในสภาพเช่นนี้ไม่เหมาะต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ ไม่เหมาะต่อการบริโภคและอุปโภคของมนุษย์ เช่น น้ำที่มีสีผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นน้ำที่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือเชื้อโรคปะปนอยู่ รวมทั้งน้ำที่มีอุณหภูมิสูงผิดปกติ
3. สารมลพิษทางน้ำ สามารถจำแนกออกได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ สารที่ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ ได้แก่สารเคมีที่มีอยู่ในน้ำ แล้วก่อให้เกิดภาวะมลพิษทางน้ำขึ้น สารมลพิษทางน้ำ สามารถจำแนกออกได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้คือ
1. สิ่งมีชีวิต (biological agents) ได้แก่ สิ่งมีชีวิตที่ ทำให้น้ำเสียหรือเสื่อมคุณภาพ เช่น
- จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค เช่น แบคทีเรีย โพรโตซัว ไวรัส รา ในน้ำจะพบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของ โรคอหิวาตกโรค โรคบิด ไทฟอยด์ โรคลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ เป็นต้น
- สาหร่าย สาหร่ายจะเจริญเติบโตในแหล่งน้ำที่มีสารอาหารมาก สาหร่ายจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการตายและการเน่าของสาหร่าย อันเป็นเหตุให้น้ำเน่าและแหล่งน้ำขาดออกซิเจน
2. สารเคมีที่มีอยู่อุดมสมบูรณ์ หรือ เกินอุดมสมบูรณ์ (chemical that enrich and over enrich) ได้แก่ สารอินทรีย์ ซึ่งเป็นของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล โรงงานผลิตสุรา - เบียร์ โรงฆ่าสัตว์ โรงงานอาหารกระป๋อง ของเสียจากบ้านเรือน ซึ่งของเสียที่ปล่อยออกมาจะมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ผงซักฟอก ไฮโดรคาร์บอน และขยะปะปนอยู่ ส่วนสารอนินทรีย์ได้แก่น้ำที่มีเกลือไนเทรต และเกลือฟอสเฟต ที่มาจากการเกษตรกรรม สารอินทรีย์จะถูกย่อยสลาย โดยแบคทีเรียและเห็ด ราในน้ำ เกิดเป็นสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของสาหร่ายและพืชน้ำน้ำที่มีไนเทรตและฟอสเฟตอยู่ในปริมาณสูงจะช่วยทำให้สาหร่ายและพืชน้ำเติบโตและเพิ่มจำนวนมากมายอย่างรวดเร็ว เมื่อสาหร่ายและพืชน้ำตายจึงเกิดการเน่าของน้ำ เรียกว่าเกิด ยูโทรพิเคชันขึ้น
3. พิษของสารเคมี (chemical poison) สารอนินทรีย์และสารอินทรีย์หลายชนิดที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตที่ใช้น้ำในการอุปโภค - บริโภค หรือบริโภคสัตว์น้ำจากแหล่งน้ำที่มีสารเคมีเป็นพิษเจือปนอยู่ สารอนินทรีย์ที่จัดเป็นสารมลพิษทางน้ำ ได้แก่ โลหะหนัก เช่น โลหะที่มีความถ่วงจำเพาะมากกว่าน้ำ 5 เท่าขึ้นไป มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างช้า ทำให้สะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานในรูปของตะกอน สิ่งมีชีวิต
ในน้ำจะได้รับโลหะหนักจากน้ำ พืชน้ำ สัตว์น้ำ จากการกินตามห่วงโซ่อาหาร ดังนั้นจึงเกิดการสะสมโลหะหนักในเนื้อเยื่อสัตว์ และเนื้อเยื่อพืช โดยสะสมสารมลพิษเพิ่มขึ้นตามลำดับขั้นการบริโภค
โลหะหนักที่พบในแหล่งน้ำ ได้แก่ สารหนู ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม สังกะสีโครเมียม นิเกิล แมงกานิสเป็นต้นโลหะหนักที่มีบทบาทต่อภาวะมลพิษทางน้ำมากที่สุดคือปรอท ตะกั่ว และแคดเมียม ถ้ามีมากเกินขีดจำกัดแล้วจะทำให้เป็นพิษต่อร่างกาย ดังเช่นพิษของปรอททำให้เกิดโรคมินามาตะในชาวประมงญี่ปุ่นบริเวณอ่าวมินามาตะ พิษของแคดเมียม ทำให้เกิดโรคอิไต-อิไต ในประเทศญี่ปุ่น ในประเทศไทย ประชาชนในอำเภอร่อนพิบูล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโรคไข้ดำ เนื่องจากน้ำดื่มมีสารหนูเจือปนอยู่มาก พิษของตะกั่วในชุมชนคลิตี้ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น
โรคไข้ดำ เป็นโรคผิวหนังอันเกิดมาจากพิษสารหนูที่มีอยู่เกินขนาดตามแหล่งน้ำโรคนี้เกิดที่อำเภอร่อนพิบูล จังหวัดนครศรีธรรมราชแหล่งน้ำธรรมชาติมีสารหนูถูกชะล้างมาจากเหมืองแร่ในอดีต โรคนี้เป็นที่สนใจเมื่อคนในอำเภอนี้เป็นโรคนี้กันมาก อาการที่ปรากฏ คือ ผิวหนังเริ่มแข็งกระด้าง ตามข้อนิ้วมือ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และบริเวณลำตัว ผิวหนังใต้ร่มผ้าออกลายเป็นจุดดำ ๆ แล้วค่อยขยายวง เป็นจุดสลับขาวน่าเกลียด
เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) ได้มีครอบครัวหนึ่งสมาชิกจำนวน 8 คนมีอาการดังกล่าวข้างต้นไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แพทย์ผู้ตรวจได้นำคนไข้ไปพบนายแพทย์ธาดา
เปี่ยมพงศ์สานต์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง จึงสามารถวิเคราะห์โรคได้ว่าเป็นโรคที่เกิดจากพิษของสารหนูที่มีอยู่ในแหล่งน้ำ จากการสำรวจแหล่งน้ำกินน้ำใช้ของชาวบ้านจำนวน 300 บ่อ ปรากฏว่าปริมาณสารหนูเกินขนาดมาตรฐานที่เป็นอันตรายทุกบ่อ ปริมาณมาตรฐานที่จะใช้น้ำบริโภคได้ คือ 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ผลการสำรวจและวิเคราะห์พบสารหนูอยู่ในแหล่งน้ำโดยเฉลี่ยมีมากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อลิตร จากการสำรวจพบว่ามีนักเรียนเป็นโรคไข้ดำมากถึงร้อยละ 20 ส่วนครูเป็นมากถึงร้อยละ 70 ทางจังหวัดจึงเตือนให้ดื่มน้ำฝนแทนน้ำจากบ่อ เพื่อลดการได้รับสารหนู เข้าสะสมในรางกาย
พิษจากอนินทรียสาร ได้แก่พิษของยาฆ่าแมลง เช่น ดีดีที คลอเคน สารประกอบเบนซิน เช่น ฟีนอล ปัจจุบันพบสารชนิดใหม่ที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม คือ โพลีคลอรีเนเตตไบเฟนิล (polychlorinated biphenyl or PCB) หรือ พีซีบี สารชนิดนี้สลายตัวยาก สารชนิดนี้ใช้เป็นตัวระบายความร้อนของเครื่องจักร ใช้ในการทำหม้อแปลงไฟฟ้า ทำความสะอาดเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เมื่อพีซีบีผ่านลงแหล่งน้ำจะผ่านเข้าสู่สิ่งมีชีวิตตามโซ่อาหาร เมื่อมนุษย์กินปลาหรือสัตว์น้ำที่มีพีซีบีสะสมอยู่มาก จะทำให้เกิดความผิดปกติและตายเนื่องจากขบวนการทางสรีรวิทยาขัดข้องจากการสำรวจพีซีบี บริเวณขั้วโลกเหนือพบว่าแมวน้ำ นกเพนกวิน และสาหร่ายมีสารชนิดนี้อยู่ในเนื้อเยื่อค่อนข้างสูง
4. สารลอยผิวหน้าน้ำ สารแขวนลอยและตะกอน สารลอยผิวหน้าน้ำ คือน้ำมัน คราบน้ำมัน และสารอื่น ๆ ซึ่งบางชนิดติดไฟได้ จึงเกิดอันตรายกับสัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังกั้นไม่ให้แสงผ่านลงสู่น้ำและกั้นก๊าซออกซิเจนไม่ให้สามารถแพร่ลงสู่น้ำได้ ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นสารที่ลอยผิวหน้าน้ำ คือ ใบไม้ กิ่งไม้ แผ่นโฟม ถุงพลาสติก กระป๋อง สารแขวนลอยและตะกอนที่มักจะเป็นอนุภาคของดินขนาดต่าง ๆ ซึ่งทำให้น้ำขุ่นจะตกตะกอนจมลงสู่ก้นแหล่งน้ำ เมื่อมีน้ำหนักมากขึ้น
5. สารกัมมันตภาพรังสี (radioactive substance) เช่น ยูเรเนียม สตรอนเตรียม ซีเซียม ไอโอดีน เป็นต้น สารกัมมันตภาพรังสีดังกล่าวจะผ่านลงสู่แหล่งน้ำได้โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
- จากกระบวนการผลิตแร่ยูเรเนียม
- จากการชำระล้างเครื่องนุ่งห่มของเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการด้านกัมมันตภาพรังสี
- จากของเสียซึ่งมาจากห้องปฏิบัติการด้านกัมมันตภาพรังสี
- ของเสียจากโรงพยาบาล ที่มีการตรวจและรักษาโรคโดยสารกัมมันตภาพรังสี
- จากกระบวนการผลิตธาตุเชื้อเพลิงจากแร่ยูเรเนียม
- น้ำจากโรงไฟฟ้าปรมาณู
- จากฝุ่นกัมมันตภาพรังสีซึ่งเกิดจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์
สารกัมมันตภาพรังสีจากห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาลนั้นอยู่ในระดับต่ำ เมื่อผ่านลงสู่แหล่งน้ำจะมีการทับถมในก้นแหล่งน้ำ จึงก่อให้เกิดปัญหาด้านการขยายทางชีววิทยาต่ำกว่าโรงไฟฟ้าปรมาณู และจากฝุ่นกัมมันตภาพรังสีมาก ( Kupchella and Hyland , 1989 : 397)
6. ความร้อน (heat) เนื่องจากน้ำเป็นตัวนำความร้อนที่ดี จึงใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อนของเครื่องจักรในโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปฏิกรณ์ปรมาณู น้ำที่ใช้ระบายความร้อนนี้ เมื่อผ่านออกมาจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการระบายความร้อนก็จะมีอุณหภูมิสูงมากจึงกลายเป็นน้ำเสีย เมื่อถูกนำลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จะทำให้น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นอันตรายต่อตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของสัตว์น้ำในบริเวณนั้น อาจทำให้สัตว์น้ำตายหมด บางส่วนต้องอพยพหนีไปหาที่อยู่ใหม่ บริเวณนี้อาจไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย
4. สารมลพิษทางน้ำแบ่งออกเป็นกี่กลุ่ม อะไรบ้าง
ตอบ 3 กลุ่มใหญ่ คือ สารมลพิษทางเคมี สารมลพิษทางชีววิทยา และสารมลพิษทางกายภาพ
5. มลพิษทางน้ำ เป็นปัญหาทางน้ำที่มีสาเหตุมาจากอะไร
ตอบ มีสาเหตุสำคัญมาจากสิ่งเจือปนที่อยู่ในน้ำ ทั้งในรูปแบบของแข็งแขวนลอย และในรูปแบบสารละลาย โดยสิ่งเจือปนจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามแหล่งกำเนิดมลพิษ ได้แก่
1. โรงงานอุตสาหกรรม
2. อาคารบ้านเรือน และ ชุมชน
3. การเกษตร
น้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นน้ำเสียจากกระบวนการผลิต เช่น การล้างวัตถุดิบ การหล่อเย็น การทำความสะอาดเครื่องจักร เป็นต้น มลพิษจากน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม จะมีลักษณะสมบัติแตกต่างกันตาม ชนิดของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และอื่นๆ โดยทั่วไป โรงงานอุตสาหกรรม ประเภทเดียวกัน และมีกระบวนการผลิตที่คล้ายคลึงกัน จะมีลักษณะสมบัติของน้ำเสีย และน้ำทิ้งที่คล้ายคลึงกัน เช่น โรงงานผลิตสารเคมี น้ำทิ้งก็จะมีสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด-ด่าง โรงงานผลิตอาหารสัตว์ น้ำทิ้งก็จะมีสิ่งเจือปนในรูปของเศษอาหารสัตว์ กากถั่ว รำข้าว และเศษกระดูกป่น เป็นต้น
น้ำทิ้งจาก อาคารบ้านเรือนและชุมชน โดยเฉพาะในชุมชนที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เช่น กรุงเทพมหานคร เขตเทศบาล ในแต่ละจังหวัด โดยทุกครัวเรือนจะปล่อยน้ำทิ้งลงสู่รางระบายน้ำสาธารณะ และน้ำทิ้งเหล่านั้นจะไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป โดยทั่วไปลักษณะสมบัติของน้ำทิ้งจากอาคารบ้านเรือนและชุมชนจะเป็นแบบที่สามารถย่อยสลายได้โดยวิธีการทางชีววิทยา นอกจากนี้ ยังมีการทิ้งขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงสู่แม่น้ำลำคลองโดยตรง อันเป็นการเพิ่มความสกปรกให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ อีกด้วย
น้ำทิ้งจากการเกษตร ได้แก่การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ในกระบวนการเพาะปลูกมักมีการใช้ปุ๋ยและสารเคมีป้องกัน กำจัดศัตรูพืชและสัตว์ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้อย่างขาดความระมัดระวัง ทำให้สารเคมีแพร่กระจายสู่แหล่งน้ำซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการฉีดพ่นสาร การชะล้างโดยฝน การล้างภาชนะที่บรรจุหรืออุปกรณ์การฉีดพ่นในแหล่งน้ำ
6. กระบวนการบำบัดน้ำเสีย มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ 3 ประเภทใหญ่ๆ
1.การบวนการทางกายภาพ
2.กระบวนการทางเคมี
3.กระบวนการทางชีวภาพ
กระบวนการส่วนใหญ่มีหน้าทีกำจัดของแข็งแขวนลอยขนาดใหญ่ที่ตกตะกอนเองได้ง่าย และกระบวนการทางเคมีก็สามรถกำจัด สารแขวนลอยขนาดเล็กหรือแข็งที่ตกตะกอนได้ช้า ซึ่งน้ำเสียที่ผ่านกระบวนการทางกายภาพและทางเคมี อาจจะมีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ในรูปของสารละลายจึงต้องนำไปผ่านกระบวนการทางชีวภาพ เพื่อกำจัดความสกปรกที่เหลืออยู่ออกไป
7. ปัจจัยต่างๆในการเลือกใช้วิธีการบำบัดน้ำเสีย มีอะไรบ้าง
ตอบ 1. ลักษณะของน้ำเสีย
2.ระดับของการบำบัด
3.สภาพท้องถิ่น
8. การบำบัดน้ำเสียโดยใช้กระบวนการทางเคมี ได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 1.การปรับพีเอช
ความเป็นกรดด่างของน้ำ เป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการควบคุมการบำบัดน้ำเสียเกือบทุกชนิด น้ำเสียที่มีพีเอชสูง (ด่าง) สามารถทำให้เป็นกลางโดยการเติมกรดชนิดต่างๆลงไป เช่น กรดเกลือ กรดกำมะถัน หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ได้ ส่วนน้ำเสียที่มีพีเอชต่ำ (กรด) เราสามารถทำให้เป็นกลางโดยการใช้ปูนขาว โซดาไฟ หรือ โซดาแอชเติมลงไป เพื่อปรับสภาพพีเอชให้เป็นกลาง
2.การกำจัดตะกอนแขวนลอยด้วยกระบวนการโคแอกกูเลชั่น
ใช้แยกตะกอนคอลลอยด์ ซึ่งไม่สามารถตกตะกอนได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก ตั้งแต่ นาโนเมตร ถึง ไมโครเมตร ซึ่งสามารถทำให้ตกตะกอนได้ด้วยการเติมสารเคมีบางชนิดลงไป เช่น การแกว่งสารส้มในน้ำเสีย จะทำให้อนุภาคของคอลลอยด์จับตัวกันเป็นกลุ่ม หรือที่เราเรียกว่า (Floc) จนมีน้ำหนักมากพอที่จะตกตะกอนได้ กระบวนการประสานคอลลอยด์เข้าด้วยกันนี้เรียกว่าโคแอกกูเลชั่น Coagulation ซึ่งมีส่วนประกอบอยู่ด้วยกัน 2 ส่วน คือ ถังกวนเร็ว กับถังกวนช้า
3การกำจัดโลหะหนักด้วยวิธีตกผลึก
โลหะหนักที่พบมักอยู่ในรูปของสารละลาย เช่น Zn,Cu,Pb,Cdฯลฯ ทำให้ไม่สามารถบำบัดได้ด้วยวิธีการกรองหรือตกตะกอนเพียงอย่างเดียว ซึ่งจำเป็นต้องทำให้โลหะหนักตกผลึกเป็นของแข็งก่อน จากนั้นทำให้ผลึกรวมกันเป็นก้อนหรือฟร้อคเพื่อให้สามารถแยกออกได้ด้วยวิธีการตกตะกอนและการกรอง จะเห็นได้ว่าการกำจัดโลหะหนักต้องใช้การตกผลึก ร่วมกับการโคแอกกูเลชั่น ตามด้วยการตกตะกอนและการกรองตามลำดับ ซึ่งโลหะหนักที่กล่าวไว้ข้างต้น ละลายอยู่ในน้ำเสีย สามารถทำให้ตกผลึกได้ด้วยการเพิ่ม พีเอช เช่น การเติม ปูนขาวลงในน้ำเสียจนมีพีเอชที่เหมาะสมจะทำให้โลหะหนักตกผลึกได้ จากนั้นทำให้ผลึกรวมตัวกันกลายเป็นฟล้อค ด้วยกระบวนการโคแกกูเลชั่น และแยกฟล้อคออกด้วยถังตกตะกอน
4.การกำจัดไขมันหรือน้ำมันละลายน้ำ
ไขมันหรือน้ำมันละลายน้ำที่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จะต้องผ่านกระบวนการทางเคมีก่อนจากนั้นจึงจะสามารถกำจัดออกจากน้ำเสียได้ด้วยวิธีทางกายภาพ ซึ่งสารเคมีที่ใช้อาจจะเป็นสารอนินทรีย์ เช่น กรดกำมะถันเป็นสารเคมีที่นิยมใช้กันมาก และ สารส้ม หรือสารอินทีรย์สังเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
5.การกำจัดสีออกจากน้ำเสียด้วยวิธีเคมี
กระบวนการกำจัดสีออกจากน้ำเสียก็เป็นเช่นเดียวกับการตกตะกอนสารแขวนลอยด้วยกระบวนการโคแอกกูเลชั่นและสามารถใช้สารเคมีตัวเดียวกันได้ สารส้มสามารถทำให้สีตกผลึกและกลายเป็นฟล้อคได้ได้ในเวลาเดียวกัน ถังตกตะกอนและถังกรองใช้กำจัดฟล้อคออกจากน้ำเหมือนกับกรณีอื่น
6.ออกซิเดชั่น-รีดัคชั่น
กรณีกำจัดมลพิษที่ละลายอยู่ในน้ำ แต่ไม่สามารถที่จะตกผลึกได้ ก็อาจจะใช้กระบวนการออกซิเดชั่น-รีดัคชั่น เปลี่ยนมลพิษให้เป็นสารที่ไม่มีพิษ เช่นการเติม Oxidant หรื Reductant อย่างใดอย่างหนึ่ง ไปทำปฏิกิริยากับมลพิษ เช่น Cr+6,CN- สารเคมีที่มักจะนำมาใช้ Oxidant ได้แก่ ออกซิเจน คลอรีนในรุปต่างๆ ด่างทับทิม H2O2 Reductant ได้แก่ SO2 เกลือซัลไฟต์ เหล็กซัลเฟต
9. อุปกรณ์สำหรับวิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีเคมี ได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 1. ถังกวนเร็วหรือถังผสม
(เป็นที่เติมสารเคมี ที่เป็นทางเข้าของน้ำเสียสารเคมีและน้ำจะผสมกันอย่างรวดเร็วในทันที) ทำด้วยเหล็กกล้าไม่ขึ้นสนิมหรือวัสดุอื่นที่ทนต่อสารเคมี มีค่าความปั่นป่วนสูงที่ ประมาณ 300-1,000 วท-1
2. ถังกวนช้า
เป็นที่สำหรับสร้างฟร้อคที่เกิดจากการรวมตัวของคอลลอยด์เพื่อส่งไปตกตะกอนในถังตกตะกอนซึงอยู่ด้านข้างถังกวนช้า ถ้าต้องการสร้างตะกอนเม็ดใหญ่จำเป็นต้องใช้ถังกวนช้า มักกักน้ำไว้ประมาณ 30-60 นาที จึงมีขนาดใหญ่กว่าถังกวนเร็ว มีค่าความปั่นป่วนต่ำที่ ประมาณ 20-80 วท-1
3. ถังตกตะกอน
ควรมีเวลากักน้ำได้ประมาณ 2-4 ชั่วโมง ลึกไม่น้อยกว่า 3 เมตร โดยเฉลี่ย ผิวน้ำควรมีอัตราน้ำล้นไม่สูงเกินกว่า 1-2เมตร/ชั่วโมง ถังตกตะกอน มี 2 ชนิด คือ แบบกลม กับแบบผืนผ้า
อนุภาคคอลลอยด์ที่ไม่ถูกบำบัดโดยถังตกตะกอนจะถูกส่งไปยังถังกรองเพื่อบำบัด น้ำที่ออกจากถังกรองจะมีความใสสูง 4. ถังกรอง
ในกรณีที่ต้องการน้ำทิ้งคุณภาพสูง มักบำบัดน้ำทิ้งของถังตกตะกอนด้วยถังกรองเร็ว ที่มีชั้นกรองเป็นทรายหรือแบบ 2 ชั้นกรองที่มีทรายและหินแอนทราไซต์ ถังกรองที่ใช้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ผลิตน้ำประปา อัตราการกรองของถังทรายและถังแบบที่ 2 ชั้นกรอง มีค่าสูงเท่ากับ 5 และ 10 เมตร/ชั่วโมง ตามลำดับ
ในการควบคุมกระบวนการบำบัดน้ำเสียทางเคมี มักต้องอำยการวัดค่าพีเอช และ วัด ORP (Oxidation –Reduction Potential) หน่วยที่ใช้วัด ORP คือมิลลิโวล ซึ่งโดยปกติเครื่องวัดพีเอชสามารถใช้วัดค่า ORP ได้ด้วยแต่ต้องเปลี่ยนอิเล็คโทรดให้ถูกชนิด
10. จงอธิบายการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางชีวภาพ
ตอบ การบำบัดโดยวิธีทางชีวภาพหรือใช้จุลินทรีย์ เป็นวิธีกำจัดสารอินทรีย์ที่สกปรกในน้ำ ซึ่งความสกปรกจะถูกใช้เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่เพาะเลี้ยงในถังเลี้ยงเชื้อ ทำให้น้ำเสียมีความสกปรกลดลง จุลินทรีย์ที่ใช้อาจเป็นแบบใช้ออกซิเจน หรือไม่ใช้ออกซิเจนก็ได้ ชนิดของระบบบำบัดน้ำเสียที่อาศัยหลักทางชีวภาพ เช่น
1.ระบบแอ็คติเว้ตเต็ดสลัดจ์ Activated Sludge
ประเทศไทยใช้ระบบนี้กันมากประมาณ 80% ระบบแอ็คติเว้ตเต็ดสลัดจ์ มีส่วนประกอบหลัก 2 หลักที่เห็นได้ง่าย คือ ถังเติมอากาศอาจทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 3-4 เมตร ที่ใช้เลี้ยงจุลินทรีย์ และถังตกตะกอนซึ่งใช้แยกจุลินทรีย์ก่อนปล่อยน้ำทิ้ง ระบบแอ็คติเว้ตเต็ดสลัดจ์ อีกแบบนึงคือ ระบบคูวนเวียน แตกต่างจากแบบแรก คือลักษณะของถังเติมอากาศจะเป็นรูปคลองวนเวียนหรือวงรี ที่ระดับน้ำสูงเพียง 1.2-1.5 เมตร มีเวลาการกักน้ำ ประมาณ 3-5 วัน และระบบบ่อเติมอากาศจะไม่มีสลัดจ์หมุนเวียนมายังบ่อเลี้ยงเชื้อ น้ำที่ออกจากบ่ออากาศจะมีตะกอนแขวนลอยอยู่สูง ถังเติมอากาศจะมีการเติมอากาศให้กับน้ำด้วยอุปกรณ์กวนน้ำแบบใดแบบหนึ่ง
2.ระบบถังกรองไร้ออกซิเจน Anaerobic Filter
ระบบถังกรองไร้ออกซิเจน กรณีที่น้ำเสียมีมีสารอินทรีย์เข้มข้น (บีโอดีสูง) นิยมใช้บ่อหมักหรือถังกรองไร้ออกซิเจนออกซิเจนเพื่อลดบีโอดีก่อน ระบบถังไร้ออกซิเจนจะเป็นถังคอนกรีตเสริมเหล็กสูงประมาณ 3-4 เมตร บรรจุหินขนาด 2-4 นิ้วไว้จนเกือบเต็ม และเลี้ยงเชื้อแบคที่เรียแบบไม่ใช้ออกซิเจนให้เกาะอยู่บนก้อนหิน ซึ่งแบคที่เรียชนิดนี้สามารถกำจัดบีโอดีได้โดยไม่ต้องเติมออกซิเจน ในปัจจุบันใช้ตัวกลางพลาสติกรูปร่างต่างๆ แทนก้อนหิน มีราคาแพง แต่มีน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดค่าคอนกรีตเสริมเห็กได้มาก
3.ระบบจานหมุนชีวภาพ Bio Disc or RBC
เป็นระบบฟิล์มชีวภาพ ที่เรียกว่า Fixed Film กล่าวคือ เลี้ยงแบคทีเรียให้เกาะติดอยู่บนแผ่นจานที่หมุนช้าๆ แผ่นจานจำนวนมากจุ่มอยู่ในน้ำประมาณ 40% ของพื้นที่จาน เมื่อจานเหมุนเคลื่อนที่ไปมาในน้ำและอากาศตลอดเวลา เมื่อแผ่นจานอยู่ในน้ำจุลินทรีย์ก็สามารถทำลายบีโอดี เมื่อจานโผล่ขึ้นมาจุลินทรีย์ก็จะได้รับออกซิเจน หมุนเวียนเป็นวัฎจักร แบบนี้บีโอดีในน้ำเสียจึงลดลง
4. ระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย
ได้รับความนิยมรองลงมาจากระบบแอ็คติเว้นเต็ตสลัดจ์ ระบบบ่อต้องใช้พื้นที่มากจึงนิยมใช้ในต่างจังหวัด บ่อบำบัดมักเป็นบ่อดินขนาดใหญ่ที่สามารถขังน้ำไว้ได้หลายๆวัน การบำบัดเช่นนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยอาศัยแบคทีเรียและสาหร่ายสีเขียวเป็นส่วนสำคัญ
5. ระบบบึงประดิษฐ์ Constructed Wetland
มีความคล้ายคลึงกับบ่อบำบัดน้ำเสียกลางแจ้ง แต่มีการใช้พืชน้ำต่างๆ เช่น ธูปฤษี,ผักตบชวา,จอก ฯลฯ ร่วมในการบำบัดน้ำเสีย ระบบนี้จะเหมาะกับการบำบัดน้ำทิ้งหรืออน้ำเสียที่มีบีโอดีต่ำๆ มีไนโตรเจนหรือฟอสฟอรัสที่ต้องการกำจัด พืชน้ำจะกำจัดได้ดีกว่าระบบบ่อกลางแจ้ง แต่ผู้ใช้ระบบนี้ก้ควรศึกษาวิธีการกำจัดพืชน้ำไว้ด้วย มิฉะนั้นพืชน้ำก็อาจจะโตเต็มบึงประดิษฐ์
แนวข้อสอบวิชาการสุขาภิบาล
1 ขยะส่วนใหญ่ที่เกิดจากโรงอาหารจัดเป็น
คำตอบที่1 Garbage
คำตอบที่2 Rubbish
คำตอบที่3 Industrial waste
คำตอบที่4 Hazardous waste
ตอบข้อ1
2 ข้อใดถูกต้อง
คำตอบที่1 Rubbish จะทำให้ ขยะเน่าเหม็นง่ายขึ้น
คำตอบที่2 คนรวยมักสร้างขยะมากกว่าคนจน
คำตอบที่3 Transfer station ของขยะกรุงเทพมหานครอยู่ที่จังหวัดนครปฐม
คำตอบที่4 ถูกทั้ง ข้อ 1.และ 2.
ตอบข้อ2
3 ข้อใดถูกต้องที่สุด
คำตอบที่1 Commingled solid waste หมายถึง ขยะที่มีวัสดุหลายชนิดปะปนกัน
คำตอบที่2 Rubbish หมายถึง ขยะที่มี food waste เป็นองค์ประกอบหลัก
คำตอบที่3 Litter หมายถึง ขยะที่รวบรวมอยู่ในถังขยะ
คำตอบที่4 Refuse หมายถึง ขยะที่ได้แยกขยะครัวออกแล้ว
ตอบข้อ1
4 ปริมาณมูลฝอยที่เกิดจากการดำรงชีพหรือมูลฝอยชุมชนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยใดดังต่อไปนี้
คำตอบที่1 ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และฤดูกาล
คำตอบที่2 รูปแบบของการดำรงชีวิต
คำตอบที่3 ทัศนคติในการดำรงชีวิต
คำตอบที่4 ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ4
5 ขยะมีน้ำหนักแห้งเท่ากับ 125 กก./ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้โดยการแทนที่อากาศในช่องว่าง ถ้าขยะมีความชื้นเท่ากับ 25% จง คำนวณหาน้ำหนักเปียกที่เพิ่มขึ้น
คำตอบที่1 60 กก./ลบ.ม.
คำตอบที่2 94 กก./ลบ.ม.
คำตอบที่3 167 กก./ลบ.ม.
คำตอบที่4 500 กก./ลบ.ม
ตอบข้อ3
6 Ultimate analysis เป็นการวิเคราะห์หาค่าของพารามิเตอร์ใดในการเผาไหม้
คำตอบที่1 ไนโตรเจน
คำตอบที่2 สารระเหยง่าย
คำตอบที่3 เถ้า
คำตอบที่4 ถูกมากกว่า 1 ข้อ
ตอบข้อ4
7 Proximate analysis เป็นการวิเคราะห์หาค่าของพารามิเตอร์ใดในการเผาไหม้
คำตอบที่1 ไนโตรเจน
คำตอบที่2 สารระเหยง่าย
คำตอบที่3 ไฮโดรเจน
คำตอบที่4 ถูกมากกว่า 1 ข้อ
ตอบข้อ2
8 ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณสมบัติของขยะมูลฝอย
คำตอบที่1 Biodegradable waste ได้แก่ Food waste, Paper, Textile
คำตอบที่2 Combustible waste ได้แก่ Wood, Textile, Paper
คำตอบที่3 Inorganic waste ได้แก่ Metals, Plastic, Rubber,
คำตอบที่4 ผิดมากกว่า 1 ข้อ
ตอบข้อ4
9 ตัวแปรที่สำคัญของคุณสมบัติขยะมูลฝอยที่ต้องพิจารณาในการหมักทำปุ๋ยได้แก่อะไร
คำตอบที่1 ความชื้น
คำตอบที่2 ค่าความร้อน
คำตอบที่3 ขี้เถ้า
คำตอบที่4 ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ1
10 คุณลักษณะที่แตกต่างที่สำคัญระหว่างขยะเมืองใหญ่ และขยะชนบท ได้แก่
คำตอบที่1 ขยะเมืองใหญ่มีโอกาสเน่าได้ง่ายกว่า
คำตอบที่2 อัตราการเกิดของขยะเมืองใหญ่ต่อคนสูงกว่า และ % เศษอาหารสดต่ำกว่า
คำตอบที่3 ขยะชนบทมีความหลากหลายประเภทมากกว่า
คำตอบที่4 ขยะชนบทสามารถนำมารีไซเคิลได้ง่ายกว่า
ตอบข้อ2